ผักตบชวา ที่เพื่อน ๆ เห็นมันลอยอยู่ตามแม่น้ำลำคลองในบ้านเรานั้น หลายคนคงจะยังไม่ทราบว่า ผักตบชวาถูกจัดอันดับให้เป็นวัชพืชร้ายแรงอันดับ 8 ของโลกเลยทีเดียว ซึ่งปัญหาของผักตบชวาไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมาตั้งแต่สมัยยุคแรก ๆ โดยผักตบชวาเข้ามาในเมืองไทยคือเมื่อปี 2444 จุดประสงค์คือปลูกเพื่อความสวยงาม
ทว่าปี 2456 ผักตบชวาแพร่กระจายไปมาก จากเดิมที่เป็นพืชสวยงาม กลายเป็นพืชที่สร้างความเดือดร้อนในแม่น้ำ ลำคลอง ทำให้คนยุคนั้นสัญจรไปมาทางเรือลำบาก ถึงขั้นมีการออกกฎหมายห้ามมีผักตบชวาในครอบครอง ใครมีต้องทำลายทิ้งทันที
จนถึงวันนี้ 106 ปีผ่านไป ผักตบชวายังคงเป็นปัญหาของคนที่อยู่ใกล้แม่น้ำลำคลอง และปัญหาก็เริ่มลุกลามมากขึ้นนอกเหนือจากเรื่องการสัญจรทางน้ำแล้ว ก็ยังสร้างปัญหาใหญ่อย่างอื่นอีกมากมาย ทีนี้เรามาดูกันว่าความน่ากลัวของผักตบชวานั้นมีอะไรบ้าง…
ผงซักฟองคืออาหารชั้นดีของผักตบชวา…ใช่ครับอ่านไม่ผิด เพราะผงซักฟอกมีสารที่ชื่อ ไนเตส ฟอสเฟต ที่เป็นแหล่งอาหาร และแร่ธาตุชั้นดีของผักตบชวาและวัชพืชน้ำ ยิ่งได้รับเยอะก็ยิ่งแพร่กระจายได้ไว โตไว และโตเร็วมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ต้องช่วยกันงดเทน้ำที่มีผงซักฟอกลงในแม่น้ำลำคลอง และติดตั้งถังบำบัดน้ำเสีย เพราะถ้าหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผักตบชวาก็จะยังคงได้รับอาหารทางอ้อมจากมนุษย์ ทำให้พวกมันขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและสร้างปัญหาให้เราต่อไป
ที่มา : https://bit.ly/2klzRQB
ผักตบชวาเป็นวัชพืชที่ขยายพันธุ์ไวที่สุดขนิดหนึ่ง ซึ่งผักตบชวา 1 ต้นนั้น มีเมล็ดถึง 5,000 เมล็ดที่พร้อมขยายพันธุ์ โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 วัน เมล็ดพันธุ์ผักตบชวาก็จะเติบโตและพร้อมขยายพันธุ์ได้ถึง 1,000 ต้นเลยทีเดียว
สังเกตง่าย ๆ ถ้าเห็นที่ไหนที่มีกอผักตบชวาแม้เพียงนิดเดียว ปล่อยไว้สักพักมันจะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และเมื่อมีจำนวนมากจนปกคลุมพื้นผิวน้ำ จะส่งผลให้น้ำขาดออกซิเจนเพราะอากาศในน้ำไม่ถ่ายเท สุดท้ายก็กลายเป็นน้ำเน่าเสีย
และที่สำคัญ ผักตบชวามีความทนต่อทุกสภาวะมาก เพราะถึงแม้ว่าคลองจะแห้งจนแทบไม่มีน้ำ แต่ผักตบชวาก็สามารถยืนต้นต่อไปได้ หรือถ้าตาย พวกมันก็พร้อมที่จะฝากเมล็ดไว้ในดินแล้วรอขยายพันธุ์ต่อในส่วนหน้าฝน
ผักตบชวา เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เพราะเมื่อไหร่ที่ผักตบชวาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ จะทำให้การไหลของน้ำช้าลงกว่าปกติ และพวกกอผักตบที่ลอยตามน้ำก็มักจะลอยไปกองรวมกันที่ใต้สะพานและประตูระบายน้ำ ทำให้ขวางทางไหลของน้ำ และเมื่อฝนตกหนักหรือมีน้ำหลากก็จะทำให้น้ำระบายไม่ทัน จนทำให้น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำได้
และที่สำคัญซากผักตบชวาที่ตาย ก็จะทับถมกันในคลองจนทำให้คลองตื้นเขิน ทำให้มีโอกาสเกิดน้ำท่วมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของผักตบชวา คือ ทำลายระบบนิเวศ หากบริเวณไหนมีผักตบชวาขึ้นหนาแน่น จะทำให้แสงส่องลงไปในน้ำไม่ได้ เป็นผลทำให้พืชน้ำที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำลดน้อยลง เมื่อมีอาหารน้อยลงปลาและสัตว์น้ำต่าง ๆ ก็จะขาดแหล่งอาหารจนพากันตายในที่สุด และเมื่อบริเวณนั้นไม่มีปลาและสัตว์น้ำอาศัยอยู่ ก็จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและบรรดาสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค อาทิ แมลงวัน หนู ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคระบาดอย่าง ไข้เลือดออก อหิวาตกโรค และโรคฉี่หนู เป็นต้น ที่สำคัญพวกกอผักตบชวายังเป็นที่หลบซ่อนของสัตว์มีพิษอีกด้วย