โทนี่ ไบรอัน (ชาวต่างชาติผู้หลงรักวิถีไทย)

โทนี่ ไบรอัน (ชาวต่างชาติผู้หลงรักวิถีไทย)

ผมรักเมืองไทย เพราะที่นี่มีมิตรภาพ น้ำใจ และรอยยิ้ม

ผลพลอยได้จากการเป็นจิตอาสา คือได้เรียนรู้และลงมือทำในสิ่งใหม่ๆ สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายที่ไม่ศิวิไลซ์ แต่ตราตรึงใจสำหรับมาเยือนจากต่างแดน

โทนี่ ไบรอัน ฝรั่งตาน้ำข้าวผู้หลงใหลวิถีชีวิตอันแสนเรียบง่ายของชาวนาไทย ด้วยความรักในกิจกรรมจิตอาสาและชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เขาเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยและได้มีโอกาสมาร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาที่เป็นเหมือนชีวิตจิตใจของเขา ณ ที่แห่งนี้

โทนี่ บอกเล่าเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจให้เขา นั่นคือกิจกรรมที่ไปช่วยดำนาให้กับเกษตรกรที่เสียสละพื้นนาเพื่อรับน้ำจากถ้ำหลวงที่เชียงราย เพื่อช่วยเหลือน้องๆทีมหมูป่าที่ติดถ้ำ ทำให้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำนาจากเกษตรกรที่มาร่วมดำนาในครั้งนั้น จนกลายเป็นมนต์เสน่ห์ให้ชายผู้นี้ชื่นชอบวิถีการทำการเกษตรและหลงรักประเทศไทย

ผมประทับใจกลุ่มจิตอาสาในไทย เพราะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ มีหัวใจของการช่วยเหลือแม้ว่าจะไม่รู้จักกัน แถมยังอุดมไปด้วยมิตรภาพที่ดี ที่ต่างคนต่างหยิบยื่นให้กันทุกครั้งที่ออกไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม

โทนี่พักอยู่ที่เชียงรายและมีเพื่อนเป็นคนไทย เลยทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยหลายอย่าง ด้วยความที่ตัวเขาเองเป็นจิตอาสาอยู่แล้ว เขาจึงมาทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อช่วยคนไทย นั่นเลยกลายเป็นที่มาที่ทำให้โทนี่รู้จักกับสิงห์อาสาและเข้าร่วมกิจกรรมหลายครั้ง ซึ่งเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่ทำกิจกรรมร่วมกับสิงห์อาสา

ที่นี่ได้ให้ประสบการณ์กับผมมากมาย ได้เจอเพื่อนชาวต่างชาติ และนักศึกษาที่มาจากหลากหลายมหาวิทยาลัยทั่วโลก นับเป็นเรื่องที่วิเศษมากที่ได้มาเจอกัน ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจทุกครั้งที่ได้ร่วมทำกิจกรรมกับพวกเขา ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจที่ได้เจอเพื่อนต่างเชื้อชาติที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งการที่มีโอกาศได้ร่วมกิจกรรมสิงห์อาสาในครั้งนี้ และหลายๆครั้งที่ผ่านมา ทำให้ผมได้เรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมของคนไทย ทั้งความคิด การใช้ชีวิต ความเชื่อ และการดำรงชีวิต ต้องขอขอบคุณกิจกรรมสิงห์อาสาที่สร้างโอกาสให้ผมได้เปิดโลกใหม่ๆ อีกครั้ง ได้เจอผู้คนใหม่ๆ ได้เห็นน้ำใจจากคนทั่วโลก ได้รับรู้ถึงคำว่ามิตรภาพ

ประสบการณ์เกี่ยวข้าวกลางแดดจ้า ได้เรียนรู้คุณค่าของอาหาร

สิ่งที่โทนี่ ประทับใจและรู้สึกทึ่งไปในคราวเดียวกัน นั่นคือ เขาได้เห็นถึงความเหนื่อยยากของชาวนาไทย ที่ต้องลำบากปลูกข้าวกลางแดดที่ร้อนจัด เพื่อผลิตอาหารหล่อเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศ

“ผมรู้จักการเกี่ยวข้าวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นใช้เวลาไม่นาน แต่ปีนี้ผมใช้เวลากับการเกี่ยวข้าวมากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่าก่อนจะมาเป็นข้าวที่รับประทานกันนั้น มันใช้กระบวนการผลิตที่ยากมาก ไม่เชื่อเลยว่าคนไทยจะสามารถเก็บเกี่ยวข้าวกลางแสงแดดจ้าได้นานขนาดนี้  ชาวนาไทยช่างเป็นคนที่น่ายกย่องจริงๆ ยอมลำบากเผื่อให้เราได้รับประทานข้าวดีๆที่มีคุณภาพจริงๆ ข้าวแต่ละเมล็ดช่างมีคุณค่าน่าเชิดชูชาวนาไทย”

สยามเมืองยิ้ม ความอบอุ่นเหมือนได้อยู่บ้าน

“ความรู้สึกนั้นยังตราตรึงอยู่ในใจผมเสมอมาคล้ายกับว่าผมคือคนในครอบครัวของเขา นี่แหล่ะคือนิยามของคำว่าสยามเมืองยิ้ม ซึ่งผมอยากนำเอาความรู้สึกดีๆและความประทับใจจากการเข้าร่วมกิจกรรมสิงห์อาสาไปเล่าให้กับคนที่บ้านฟังว่า คนไทยเป็นคนที่อบอุ่น อัธยาศัยดี ยิ้มง่าย ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ หรือ คนที่กำลังลำบาก อยากจะบอกเล่าถึงวิถีชีวิตของชาวนาที่ดูเรียบง่าย แต่มีความสุขเหลือเกิน ได้อยู่กับธรรมชาติ มีที่ดินทำกิน ถึงแม้จะรู้สึกร้อนไปหน่อยตอนเกี่ยวข้าว แต่ผมก็หลงรักชีวิตแบบนี้นะ มีข้าวกินและคนไทยก็ยิ้มง่าย Thailand of smile

หลังจากโทนี่ได้ทำกิจกรรมจิตอาสาในเมืองไทย ทำเขาให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทย รับรู้ความมีน้ำใจที่พวกเขามีให้กับคนต่างถิ่น เรารับรู้ได้ว่า เมืองไทยคือสยามเมืองยิ้มอย่างแท้จริง เพราะเมื่อทุกครั้งที่เขาเดินทางผ่านไปที่แห่งหนใด คนไทยจะยิ้มทักทายทุกครั้ง ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพที่ดีทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเหมือนกับได้อยู่ที่บ้าน