
ภัยแล้งไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับชาวเกษตรกร แต่ส่งผลกับคนทั้งประเทศ ปี 2562 ถือว่าเป็นอีกปีที่แล้งหนัก โดยมีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อน ทำให้อุณหภูมิบ้านเราสูงขึ้น 1-2 องศา ฝนจึงตกน้อยกว่าที่ควรจะเป็นถึงร้อยละ 10 ซึ่งแค่นี้ก็นับว่าเป็นปัญหามากแล้ว เพราะพอฝนไม่ตก ชาวบ้านเริ่มขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะชาวเกษตรกรที่ต้องใช้น้ำในการทำไร่ ทำสวน พอไปหาน้ำจากแหล่งน้ำอื่น ๆ ก็พบว่าน้ำเริ่มแห้งขอดไปตาม ๆ กัน ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติและเขื่อนหลายแห่งทั่วประเทศ และเมื่อไม่มีน้ำ พืชผลและข้าวในนาก็เริ่มยืนต้นตาย สัตว์เลี้ยงเองก็ล้มป่วยและตายเพราะขาดน้ำเช่นเดียวกัน
ที่น่ากังวลยิ่งไปกว่านั้นคือความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากภัยแล้ง เพราะข้าวในนาไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ส่งผลให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท กลายเป็นผลกระทบที่ส่งต่อไปเป็นวงกว้าง เดือดร้อนกันทุกภาคส่วน
การทำภารกิจของสิงห์อาสาไม่ใช่แค่ลงไปทำให้จบไป แต่เราต้องเข้าใจถึงความต้องการของคนในพื้นที่ก่อน เพื่อให้สิ่งที่เราทำมีประโยชน์กับคนในพื้นที่มากที่สุด ซึ่งก่อนที่สิงห์อาสาจะทำภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งที่ จ.มหาสารคาม และ จ.สุรินทร์ เราก็ได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิด และจากการพูดคุยในครั้งนั้นเอง ทำให้เราเข้าใจว่าสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ น้ำสะอาด
ภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งกลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เรามีเป้าหมายคือช่วยบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านและนำรอยยิ้มของทุกคนกลับคืนมา ด้วยการนำน้ำดื่มกว่า 40,000 ลิตร และติดตั้งแทงก์น้ำขนาด 2,000 ลิตร จากโครงการธนาคารน้ำสิงห์จำนวน 8 แทงก์ ที่บ้านบูรพาพัฒนา หมู่ที่ 6 และบ้านโคกแปะ หมู่ที่ 7 ต.โคกสีทองหลาง อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคามและ หมู่ที่ 2 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งหากน้ำในแทงก์หมด สิงห์อาสาก็จะนำน้ำดื่มไปเติมให้ตลอด เพื่อให้ชาวบ้านมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะมีน้ำสะอาดไว้สำหรับบริโภคตลอดหน้าแล้งนี้
วิธีแก้ภัยแล้งของสิงห์อาสาไม่ได้มีแค่การมอบน้ำดื่มให้เท่านั้น เรายังมีวิธีแก้ภัยแล้งอย่างยั่งยืนด้วยการทำประปาภูเขา ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยที่ทำกันมาช้านานทุกช่วงหน้าแล้ง โดยในวันทำภารกิจ สิงห์อาสาได้เข้าไปช่วยชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ต่อท่อทำรางน้ำจากตาน้ำบนภูเขาลงมาที่หมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านมีน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค โดยใช้ท่อ PVC ทำเป็นรางน้ำแทนการใช้รางไม้ไผ่แบบเดิม เพราะท่อ PVC มีความทนทานกว่า รองรับความแรงน้ำได้ดีกว่า และไม่ต้องซ่อมบำรุงบ่อย
เมื่อมีประปาภูเขา ชาวบ้านก็ไม่ต้องขึ้นเขาไปตักน้ำให้ลำบากอีกต่อไป ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการที่เรามีโอกาสส่งต่อภูมิปัญญาดั้งเดิมให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและร่วมกันอนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ไว้ ที่สำคัญเลยคือทุกคนจะได้เรียนรู้การอนุรักษ์ป่า
อนุรักษ์ตาน้ำ และใช้น้ำจากตาน้ำอย่างคุ้มค่า เพื่อที่จะได้มีน้ำไว้ใช้ในยามจำเป็นต่อไป
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่จะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่ได้ความร่วมมือร่วมใจจากทุกคน และภารกิจในครั้งนี้ สิงห์อาสาได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสากว่า 100 ชีวิต จาก 16 สถาบันการศึกษา ได้แก่
มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ,มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร,มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
น้อง ๆ เครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาทั้งหมดนี้ ต่างก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจอาสา ต้องการใช้พลังของตัวเองทำประโยชน์เพื่อสังคม ตามแนวคิดพันธกิจของสิงห์อาสาที่เราได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้ การได้ใช้เวลาไปกับการทำประโยชน์เพื่อสังคมนับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของสิงห์อาสา เราจะนำประสบการณ์ที่ได้ไปพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณที่ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกับทุกคน